วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

การปลูกกล้วยไม้

การปลูกกล้วยไม้
เนื่องจากในรอบปีแต่ละปีนั้น  มีการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลตาม  และความชุ่มชื้นก็ตาม   อัตราการเจริญของกล้วยไม้ต่างๆในแต่ละฤดูกาล   ก็มีความสอดคล้องกับบทบาทการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล  เช่นเดียวกันกับพันธุ์ไม้อื่นๆ  ประเทศไทยตั้งอยู่ค่อนมาทางเหนือของเส้นศูนย์สูตร   (equator)   ของโลก    ซึ่งมีผล กำหนดลักษณะฤดูกาลไว้อย่างแน่ชัด  การปลูกและการขยายพันธุ์ ไม้ควรยึดหลักปฏิบัติในระยะต้นๆของฤดูเจริญเติบโต   เพื่อให้ กล้วยไม้ได้มีโอกาสตั้งตัวและเจริญแข็งแรงดี   ก่อนถึงฤดูกาลที่กล้วยไม้จะต้องมีการเจริญช้าลง  หรือบางชนิดก็พักตัว  ฤดูเจริญ เติบโตของกล้วยไม้เริ่มต้นระหว่างปลายฤดูแล้งต่อต้นฤดูฝนหรือประมาณเดือนมีนาคม-มิถุนายนกล้วยไม้ที่อยู่ในสภาพซึ่งควรจะได้พิจารณาปลูกใหม่ ได้แก่  กล้วยไม้ที่มีอายุมากอยู่ในสภาพทรุดโทรม   สมควรที่จะตัดแยก และปลูกใหม่  กล้วยไม้ที่แตกกอขนาดใหญ่มากเกินไป หรืออยู่ในสภาพที่ระบบรากหมดอายุ     การตัดแยกปลูกใหม่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ให้แก่กล้วยไม้ได้   นอกจากนั้น  การหาพันธุ์กล้วยไม้มาจากธรรมชาติเพื่อนำมาปลูก   ก็ควรกระทำในฤดูนี้ด้วย    ภาชนะปลูกอาจใช้กระถางดินเผา  หรือกระเช้าไม้ แล้วแต่ความเหมาะสม   หากเป็นกล้วยไม้ที่มีระบบรากอากาศคือ   มีรากใหญ่และโปร่ง  เช่น  กล้วยไม้หลายชนิดที่ขึ้นอยู่ตาม ต้นไม้ในธรรมชาติ   อาทิเช่น    กล้วยไม้สกุลแวนดา   เป็นต้น   ควรใช้ภาชนะปลูกที่มีลักษณะโปร่ง    อากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนเครื่องปลูกก็ควรยึดหลักการเช่นเดียวกันคือ ใช้เครื่องปลูกที่โปร่ง  เช่น  ถ่านไม้  เป็นต้น  ในสมัยก่อนได้เคยมีผู้นิยมใช้รากเฟิร์นบางชนิด    มีลักษณะเป็นเส้นสีดำเรียกกันว่า   ออสมันดา(osmunda)      เป็นเครื่องปลูกกล้วยไม้กันอย่างแพร่หลาย ต่อมาออสมันดาหายากและมีราคาแพงยิ่งขึ้น  จึงได้มีการสนใจใช้กาบมะพร้าวแห้งเป็นเครื่องปลูกกล้วยไม้บางชนิด    ต่อมาในภายหลังได้พิจารณาเห็นว่า    การใช้ถ่านไม้นับเป็นวิธีการที่สะดวกกว่า  จึงได้มีผู้นิยมมากขึ้นเป็นลำดับ  แต่ก็มีผู้ซึ่งพยายามงดเว้นการใช้เครื่องปลูกใดๆทั้งสิ้น   สำหรับกล้วยไม้ประเภทที่ มีรากอากาศ  โดยให้รากเกาะอยู่ในภาชนะปลูกเท่านั้น     ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่พอใจ      ทั้งจำเป็นต้องมีการปรับวิธีการเลี้ยงดูให้สอดคล้องกับสภาพดังกล่าว  เช่น  มีการให้น้ำและให้ปุ๋ยมากขึ้นกล้วยไม้เหมือนพันธุ์ไม้ที่พบทั่วๆไปทั้งหลาย   ซึ่งมีความต้องการน้ำ  ปุ๋ย   และการเลี้ยงดูตามสมควร   กล้วยไม้ประเภทที่มีรากอากาศนั้น   มีผิวรากหนา  และมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มาก จึงสามารถอยู่ในอากาศได้ดี   และยังดูดความชื้นจากอากาศบาง ส่วนได้ด้วย    โดยปกติในสภาพฝนฟ้าอากาศโปร่งและแจ่มใสการรดน้ำให้กล้วยไม้วันละครั้งในเวลาเช้าอย่างทั่วถึง    นับว่า เป็นการเพียงพอ    ส่วนปุ๋ยนั้นโดยทั่วๆไป     ควรมีการให้ปุ๋ยละลายน้ำรดกล้วยไม้ประมาณสัปดาห์ละ ๑  ครั้ง   และใช้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักไนโตรเจน  ฟอสเฟต  และโพแทสเซียม ในอัตราส่วนประมาณเท่าๆ กัน  ปุ๋ยผสมนี้ควรเป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำได้ดี  และใช้ในอัตราประมาณร้อยละ ๐.๑-๐.๕  ของปริมาณน้ำ ก็นับว่าเป็นการเพียงพอการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชใน  การเลี้ยงกล้วยไม้ เป็นสิ่งพึงระมัดระวังเป็นพิเศษ  เพราะสารเคมีเหล่านี้เมื่อมีพิษมีภัยต่อศัตรูกล้วยไม้ได้ฉันใด    ก็ย่อมมีพิษมีภัยต่อชีวิตคนได้ฉันนั้น   การเลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกทั่วๆไป   ย่อมมีเรือนหรือสวนกล้วยไม้อยู่ในบริเวณบ้าน  การใช้ยาอันตรายทั้งหลาย  จึงเป็นการเสี่ยงต่อชีวิตคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างยิ่งจึงขอแนะนำว่า    คนเลี้ยงต้นไม้ที่ฉลาดและมีเหตุผลนั้น  จะให้ความสนใจเลี้ยงและทะนุบำรุงต้นไม้  ให้เจริญแข็งแรงและสมบูรณ์ มีความต้านทานศัตรูได้ดีอยู่เสมอ  ดีกว่าการใช้ยาป้องกันกำจัดศัตรู   การใช้ยาจึงควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ  และพิจารณาปฏิบัติเมื่อมีความจำเป็นจริงๆล


วิธีการปลูกกล้วยไม้ ในกระเช้าไม้ลูกกล้วยไม้แวนดาที่นำออกจากกระถางเดี่ยว ขนาด ๑ นิ้ว

วางลูกกล้วยไม้ลงตรงกลางกระเช้าไม้สัก ขนาด ๔ นิ้ว

ใส่ถ่านก้อนขนาดพอเหมาะสมลงไปโดยรอบ


การดูแลรักษา
             การปลูกเลี่ยงกล้วยไม้แบบ ธรรมชาตินั้น อาจกล่าวได้ว่าต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก ผิดกับการปลูกเลี้ยงเป็นจำนวนมากในเรือนโรงมราต้องดูแลเป็นอย่างดี และมักมีโรคและแมลงศัตรูมากด้วย ประการสำคัญเพราะเราได้เลือกสรรชนิดของกล้วยไม้ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อโรคและแมลงไม่มีเครื่องปลูกที่ผุเปื่อยตามอายุซึ่งจะต้องคอยเปลี่ยนใหม่ จึงเหมือนแต่เพียงดูแลรดน้ำให้บางตามความจำเป็น หรือพ่นยาป้องกันกำจัดโรคแมลงศตรูให้ในกรณีที่แหล่งนั้นมีมากกว่าปกตินานๆ ครั้งเพื่อให้กล้วยไม้สมบูรณ์แข็งแรง บางทีจะพบว่าจริญงอกงามดีกว่าพบในป่ามาก เพราะได้น้ำอาหารดีกว่าตลอกทั้งปี ไม่เหี่ยงเฉาในช่วงแล้งจัด การให้ปุ๋ยก้อเช่นกันเป็นเพียงเสริมให้ต้นไม้เจริญเติบโตดียิ่งขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นไม้กำลังเจริญแตกหน่อแตกใบ
             อนึ่ง การรดน้ำนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะสภาพแวดล้อมในเมืองใหญ่ ๆ ในปัจจุบันมีอากาศร้อนอบอ้าวและมีฝุ่นละอองมากกว่าในป่า ซึ่งการรดน้ำนอกจากจะช่วยให้อากาศเย็นขึ้นแล้วยังทำหน้าที่ชำระล้างเอาฝุ่นละอองที่จับตามรากต้นไม้ด้วยมีข้อเสียอยู๋บ้างสำหรับน้ำบาดาลในบางท้องที่ซึ่งมีปริมาณเกลือแร่สูง และมีคุณสมบัติไม่เหมาะสำหรับกล้วยไม้บางชนิด เช่น ฟ้ามุ่ย และ เขาแกะ เป็นต้น มักจับเป็นคราบอยู๋ตามใบและรากทำให้กล้วยไม้ไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรไประยะหนึ่ง พอเข้าฤดูฝนจะเจริญงอกงามตามปกติ




การเลี้ยงกล้วยไม้ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศร้อน   ที่มีพันธุ์กล้วยไม้ป่านานาชนิดอยู่ตามธรรมชาติ   สามารถจะนำมาศึกษาเพาะเลี้ยง  เพื่อการอนุรักษ์  ขยายพันธุ์  ปรับปรุงพันธุ์ให้เกิดประโยชน์ในด้านสังคม เศรษฐกิจ และอนุรักษ์ธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ประกอบกับสภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของประเทศไทยเหมาะสมแก่การเลี้ยงกล้วยไม้โดยไม่ต้องลงทุนมากนัก    การเลี้ยงกล้วยไม้ใประเทศไทยจึงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ  พ.ศ.  ๒๔๕๐  ในหมู่ของผู้สูงอายุและมีฐานะทางเศรษฐกิจดีพอสมควร      การส่งเสริมการเลี้ยงกล้วยไม้อีกระยะหนึ่งได้เริ่มพันธุ์ต่างๆจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยง และมีการผสมพันธุ์กันบ้างแต่ยังจำกัดวงอยู่เช่นเดิม  ความรู้ทางวิชาการจึงมิได้กระจายออกไปเท่าที่ควร     และทรัพยากรต่างๆ ก็ยังมิได้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจนด้วย   ใน  พ.ศ. ๒๔๙๕ จึงได้มีการเปิดแนวความคิดใหม่ออกไปสู่มุมกว้าง   ได้มีการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ ในการเพาะ เมล็ดกล้วยไม้แบบวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพสูง  และนำออกเผยแพร่    เพื่อให้คนทุกระดับฐานะนำไปปฏิบัติได้   อันเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรักและสนใจต้นไม้     เพื่อการพัฒนาทางจิตใจ  และเป็นการส่งเสริมการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจด้วย



 กล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง (๑ ของขนาดจริง)



ประโยชน์ของกล้วยไม้
            กล้วยไม้ได้เข้ามามีบทบาทอยู่ในสังคมของมนุษย์เป็นเวลาช้านานแล้ว   ดังจะเห็นได้ว่า  ในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีศิลปวัฒนธรรมซึ่งน่าสนใจ  และแผ่กระจายออกไปทั่วโลก    ก็ยังมีหลักฐานปรากฏบทบาทของกล้วยไม้อยู่ด้วย  เช่น  ภาพเขียนที่ปรากฏตามโบราณวัตถุต่างๆประเทศในยุโรป  บางประเทศที่ได้ทำการสำรวจดินแดนในเขตร้อนและเขตอบอุ่นของทวีปเอเชียและอเมริกาในสมัยก่อน  ก็ได้มีการนำกล้วยไม้นานาชนิดกลับไปเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ รวมทั้ง ได้มีการเริ่มผสมพันธุ์เพื่อประโยชน์ต่างๆด้วย    เมื่อความเจริญทางด้านสังคม  เศรษฐกิจ  และวิทยาการได้ขยายตัวกว้าง-ขวางออกไป  ก็ได้ปรากฏว่า ประเทศต่างๆซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก และมีความเจริญพอสมควร  ได้ให้ความสนใจในการเลี้ยงกล้วยไม้กันทั่วๆไป   เมื่อได้วิเคราะห์ความนิยมในวงการกล้วยไม้ของประ-เทศต่างๆ อย่างกว้างขวางแล้ว  สามารถจะสรุปได้ดังนี้
            กล้วยไม้เป็นพืชซึ่งใช้เป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษาทางด้านวิชาการเกี่ยวกับธรรมชาติและชีวิตของพันธุ์ไม้ได้อย่างดี    เนื่องจากกล้วยไม้เป็นพืชวงศ์ใหญ่มาก   ลักษณะทางพันธุศาสตร์จึงมีความแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง   และยังมีการกระจายพันธุ์อยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ผิดแผกแตกต่างกันอีกด้วย  ทั่วโลก แม้ว่าจะได้มีการนำกล้วยไม้มาเลี้ยง  และศึกษาวิจัยนานพอสมควรแล้วก็ตาม    แต่ก็ยังได้มีรายงานว่าได้มีการค้นพบและตั้งชื่อทาง พฤษศาสตร์แก่กล้วยไม้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ  ดังนั้น นักวิชาการพฤกษศาสตร์สาขาต่างๆ และพืชศาสตร์จึงได้ให้ความสนใจที่จะนำกล้วยไม้มาเป็นพืชตัวอย่างเพื่อการศึกษาและวิจัยในสาขานั้นๆยิ่งไปกว่านั้น    ในสังคมของผู้นิยมเลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกก็ประกอบด้วยบุคคลในหลายสาขาอาชีพ  ผู้ที่มีความถนัดในสาขาวิชาการใด  ที่จะนำมาใช้พัฒนาการเลี้ยงกล้วยไม้ได้ ก็จะให้ความสนใจนำวิชาชีพที่ตนถนัดมาใช้  ให้เกิดประโยชน์ในการปรับปรุง การเลี้ยงกล้วยไม้ด้วย  สำหรับผู้ที่มิได้อยู่ในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวกับต้นไม้     บางคนมีรสนิยมในการรวบรวมพันธุ์และศึกษากล้วยไม้ป่านานาชนิด     และยังมีการศึกษาค้นคว้าจากตำราต่างๆ อย่างกว้างขวาง   กล้วยไม้จึงเป็นพืชที่สามารถดึงดูดความสนใจจาก คนหลายประเภทให้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ดอกไม้เป็นอย่างดี
            ความเจริญในสังคมทั่วๆไปที่ได้ผ่านมาแล้วนั้น ได้เน้นหนักไปในด้านวัตถุเป็นอย่างมาก   การเพิ่มของจำนวนประชากรในส่วนต่างๆของโลกก็ดี  ความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ  ตลอดจนทางด้านสังคม   และเศรษฐกิจ       ทำให้คนเราต้องมีภารกิจการงานหนักมากยิ่งขึ้น      ปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวันนับเป็นแรงกดดันที่สำคัญทางจิตใจ  ประชาชนในประเทศต่างๆที่เจริญพอสมควรแล้ว  จึงมีความสนใจทำงานอดิเรกเพื่อเป็นการพักผ่อนจิตใจในยามว่าง     การเลี้ยงกล้วยไม้จัดได้ว่า   เป็นงานอดิเรกที่ สร้างสรรค์  ทั้งในด้านจริยธรรมและการศึกษาไปในตัว  รวมทั้งได้มีโอกาสผ่อนคลายความตึงเครียดทางจิตใจในขณะที่อยู่กับต้นไม้   ทั้งยังศึกษาและติดตามการเจริญเติบโต  และได้ชมดอก ที่สวยงาม  หรือลักษณะแปลกๆ  ซึ่งเป็นผลงานของแต่ละคน
            กล้วยไม้เป็นต้นไม้ที่มีขนาดพอเหมาะสม  การเลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกจึงสามารถกระทำได้   แม้ในบริเวณสวนหลังบ้านซึ่งมีที่ดินเพียงเล็กๆ น้อยๆ   หรือแม้แต่ตามซุ้มต้นไม้  ตลอดจนไม้ยืนต้นที่ปลูกในบริเวณบ้าน    หากมีสภาพโปร่ง  ให้แสงแดดส่องลงได้พอสมควร   ก็สามารถใช้เป็นที่ปลูกกล้วยไม้ได้  กล้วยไม้จึงเป็นไม้ดอกไม้ประดับบ้านให้สวยงามได้อย่างดี    บ้านนับเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตและครอบครัว    บ้านที่มีพันธุ์ไม้สวยงามพอสมควรเป็นสิ่งประดับ    ย่อมจะช่วยให้บ้านมีความน่าอยู่ยิ่งขึ้น   จิตใจของคนที่อยู่ในบ้านย่อมมีความแจ่มใส     บุตรหลานในครอบครัวซึ่งจะเติบโตขึ้นมาในอนาคต จะได้พบเห็นสิ่งที่ดี เสริมสร้างจิตใจในชีวิตประจำวัน   และถ้าได้มีการฝึกอบรมให้ บุตรหลานได้มีจิตใจรักและช่วยดูแลทำนุบำรุงสิ่งเหล่านี้เป็นงานประจำแล้ว   ย่อมเป็นสิ่งที่บังเกิดผลดีในอนาคต
           หลักสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิตคนในสังคมทั่วๆไป  ก็คือคนเราจะอยู่แต่ลำพังคนเดียวไม่ได้  จำเป็นต้องมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างบุคคลต่อบุคคล    ครอบครัวต่อครอบครัวและระหว่างประเทศต่างๆ ที่จะต้องอยู่ร่วมกันในโลกนี้  ทุกวันนี้มนุษย์เราจึงพยายามหาจุดแห่งความสนใจร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์  และความเข้าใจดีระหว่างกันและกัน    อันเป็นหลักการและแนวทางที่จะมุ่งไปสู่ความสงบของมวลมนุษยชาติ   วงการกล้วยไม้ในแต่ละประเทศหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีความเจริญทางจริยธรรมพอสมควร  ได้มีการพัฒนากล้วยไม้ตามแนวทางดังกล่าวนี้ด้วย   ดังจะเห็นได้ว่า  มีประเทศต่างๆทั่วโลกเป็นจำนวนมากให้ความสนใจเลี้ยงกล้วยไม้  และมีสมาคม ผู้เลี้ยงกล้วยไม้   เพื่อเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ  และมีการแลกเปลี่ยน ความรู้  ประสบการณ์  ตลอดจนพันธุ์ไม้ต่างๆระหว่างกัน    นอกจากนั้น   ยังได้มีการสร้างสรรค์และเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของวงการกล้วยไม้ระหว่างประเทศ  ดังจะเห็นว่า ได้มีการจัดการประชุมกล้วยไม้ระหว่างประเทศในภาคพื้นยุโรปขึ้นทุกๆ ๓    ปี   โดยหมุนเวียนไปตามประเทศต่างๆ ที่อยู่ในภูมิภาคนั้น  และได้มีการริเริ่มงานชุมนุมกล้วยไม้โลกขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.๒๔๙๗ ณ เมืองเซนต์หลุยส์  มลรัฐมิสซูรี  สหรัฐอเมริกา นับแต่ นั้นมา งานชุมนุมกล้วยไม้โลกก็ได้จัดขึ้นทุกๆ ๓ ปี  โดยหมุนเวียนไปตามประเทศต่างๆ ตามข้อตกลงในที่ประชุมที่ผ่านมา  สำหรับประเทศไทยนั้น ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานชุมนุมกล้วยไม้โลกครั้งที่ ๙ ในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๑๒   ซึ่งปรากฏว่า ได้มี บุคคลต่างชาติต่างภาษาและต่างสาขาอาชีพจาก   ๔๑  ประเทศ มาร่วมประชุมกันประมาณ  ๓,๐๐๐ คน บุคคลในวงการกล้วยไม้ จึงมีการติดต่อถึงกันในมุมต่างๆของชีวิตอย่างกว้างขวาง   ทั้งในด้านความรักความสนใจธรรมชาติ  ความสัมพันธ์ทางจิตใจ  และการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ    ตลอดจนประสบการณ์ที่ได้ ค้นพบใหม่ๆ ด้วย   
            จากประโยชน์ที่สังคมได้รับจากกล้วยไม้ดังได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด จึงทำให้กล้วยไม้เป็นที่ต้องการในกลุ่มคนโดยทั่วๆไป ดังนั้น  จึงเกิดธุรกิจการค้าเกี่ยวกับกล้วยไม้ติดตามมา  อันเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  ซึ่งมีตั้งแต่ที่เป็นผลพลอยได้จากการ เลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกในครอบครัวไปจนถึงการประกอบ อาชีพหลักด้วยการเลี้ยงกล้วยไม้    การค้ากล้วยไม้นั้นก็มีการขายทั้งต้นและดอก   การขายต้นจำแนกออกไปได้เป็น  ๒  แนวทางคือเพื่อนำไปปลูกเลี้ยงเป็นงานอดิเรก  นำไปทำพันธุ์เพื่อการขยายออกไป  หรือจำหน่ายไปสู่การปลูกเพื่อตัดดอกเป็นการค้าก็ได้อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้ากล้วยไม้ก็จะต้องเข้าใจถึงประโยชน์อันแท้จริงที่กล้วยไม้ได้อำนวยให้แก่สังคมดังกล่าวมาแล้วทั้งหมด  และต้องร่วมมือกันรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ธุรกิจการค้ากล้วยไม้มีความมั่นคงถาวร หรืออาจกล่าวโดย สรุปได้ว่า ผู้ที่มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากกล้วยไม้ควรจะได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ผู้สนใจเลี้ยงกล้วยไม้ได้รับประโยชน์ จากกล้วยไม้ในทางที่ถูกต้องด้วย